บมจ.อินเตอร์ไฮด์ (IHL) เปิดผลงาน Q2/65 มีกำไรสุทธิ 25.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.31% จากงวดเดียวกันของปีก่อน อานิสงส์อุตสาหกรรมรถยนต์มีสัญญาณฟื้นตัว พร้อมรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นฟากบิ๊กบอส “องอาจ ดำรงสกุลวงษ์” ระบุครึ่งหลังปีนี้พร้อมเดินหน้าลุยขยายธุรกิจผลิตเบาะหนังรถยนต์-เฟอร์นิเจอร์-ฟอกหนังรองเท้า-ขนมขบเคี้ยวสุนัขเต็มสปีด หนุนผลงานปีนี้โตเข้าเป้า

นายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) (IHL) เปิดเผยว่าภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2565 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565) มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 25.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.31%  เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 18.61 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่435.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.02% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวมเท่ากับ 406.72 ล้านบาท

ขณะที่ ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 71.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น11.69%  เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 64.08 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 911.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.99% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวม 851.59  ล้านบาท

ปัจจัยที่สนับสนุนให้รายได้และกำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากธุรกิจผลิตเบาะหนังรถยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักมีคำสั่งซื้อ (Order) เข้ามาอย่างต่อเนื่อง สามารถเดินเครื่องได้เต็มตามกำลังการผลิต รวมทั้งมีรายได้จากธุรกิจใหม่และธุรกิจอื่นๆ เข้ามาสนับสนุนมากขึ้น

“ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ของปีนี้ IHL ยังสามารถเติบโตได้ดีตามเป้าหมาย ผลจากอุตสาหกรรมยานยนต์ มีสัญญาณที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน และมีทิศทางที่ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ประกอบกับกลุ่มธุรกิจใหม่ อย่างธุรกิจฟอกหนังรองเท้ามียอดขายที่เพิ่มขึ้น รวมทั้ง รายได้จากการบริการที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง” นายองอาจกล่าว

ด้านนายวศิน ดำรงสกุลวงษ์ กรรมการ และผู้จัดการทั่วไป บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) (IHL) กล่าวว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในครึ่งหลังของปี 65 บริษัทฯ เดินหน้าตามแผนที่วางไว้ ทั้งธุรกิจหลักและกลุ่มธุรกิจใหม่ ล่าสุด IHL ได้ต่อยอดธุรกิจผลิตหนังเฟอร์นิเจอร์  ออกแบบ ผลิตและจำหน่ายโซฟาภายใต้แบรนด์ “ALEX” ซึ่งเป็นโซฟา ที่ผลิตจากหนังวัวคุณภาพพรีเมี่ยม ปัจจุบันมี โชว์รูมอยู่ที่ เซ็นทรัลวิลเลจ (Central Village)

ส่วนธุรกิจผลิตเบาะหนังรถยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก มีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และในส่วนกลุ่มธุรกิจใหม่ ทั้งธุรกิจฟอกหนังรองเท้า ปัจจุบันมีลูกค้า 3 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ อีก 1-2 ราย

สำหรับธุรกิจขนมขบเคี้ยวสุนัข มีวางจำหน่ายภายใต้แบรนด์ “MOMO & FRIENDS” ผ่านช่องทางออนไลน์ทั้ง www.facebook.com/MomoFriends.official/ ,instagram.com/momoandfriendsth?igshid=YmMyMTA2M2Y=  และ LINE ID : lin.ee/N33Sarq แล้ว ขณะที่บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายไปยังห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาทางธุรกิจ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้

นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมจะขยายตลาดไปยังต่างประเทศในรูปแบบรับจ้างผลิต (OEM) เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีการส่งออกไปยังประเทศเกาหลี พร้อมทั้ง มีการส่งออกในรูปแบบวัตถุดิบหนังวัวไปยังประเทศเวียดนาม และกัมพูชา เพื่อให้ผลการดำเนินงานในปีนี้ เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ได้